การจดทะเบียนรถแท็กซี่มิเตอร์ |
หนังสือที่กรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้จดทะเบียนรถแท็กซี่ |
ชุดจดทะเบียนที่บริษัทผู้จำหน่ายรถออกให้ หรือกรณีเป็นรถที่เคยใช้งานมาแล้วให้ใช้ใบคู่มือจดทะเบียนรถแทนได้ |
หนังสือรับรองการติดตั้งวิทยุสื่อสารที่กรมไปรษณีย์โทรเลขออกให้ |
หนังสือรับรองมิเตอร์ |
กรมธรรม์ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยชั้นที่ 3 |
หลักฐานประจำตัวผู้ขอจดทะเบียน เช่นสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล |
รถแท็กฃี่ส่วนบุคคล |
การจดทะเบียนประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ได้แก่ |
การขอความเห็นชอบการจดทะเบียน การนำรถมาจดทะเบียน |
การจดทะเบียนรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ส่วนบุคคล ขออนุญาตจดทะเบียนได้คนละ 1 คัน กรณีที่เคยมีรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ส่วน |
บุคคล ในชื่อของตนเองมาก่อนจะต้องโอนเป็นชื่อของบุคคลอื่นแล้ว หรือแจ้งเลิกใช้ตลอดไป หรือเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียน หรือเป็นรถ |
ที่ครบกำหนดสิบสองปีแล้ว |
การขอความเห็นชอบการจทะเบียน |
โดยยื่นคำขอต่อนายทะเบียนพร้อมด้วยหลักฐาน |
|
เมื่อตรวจสอบหลักฐานแล้ว เห็นว่าผู้ขอจดทะเบียนมีคุณสมบัติ และหลักฐานถูกต้องครบถ้วน ให้นายทะเบียนนำเสนอผู้มีอำนาจในการ |
พิจารณาให้ความเห็นชอบการจดทะเบียน ผู้ได้รับความเห็นชอบการจดทะเบียนต้องนำรถมาตรวจสภาพและจดทะเบียนภายใน 60 วันนับแต่วัน |
ที่ได้รับหนังสือ กรณีไม่นำรถมาจดทะเบียนหรือจดทะเบียนไม่ครบตามจำนวนที่ได้รับความเห็นชอบ ให้ถือว่าผู้นั้นไม่ประสงค์จะขอจดทะเบียนร |
ถอีกต่อไป แต่ถ้ายังมีความประสงค์อยู่ก็ต้องเริ่มต้นยื่นคำขอใหม่ การนำรถมาจดทะเบียน การนำรถมาจดทะเบียนรถต้องมีลักษณะดังนี้ |
|
ติดตั้งวิทยุสื่อสารที่ได้รับอนุญาตจากกรมไปรษณีย์โทรเลขในระบบ SIMPLEX-2-FREQUENCIES |
การตรวจสภาพรถแท็กซี่มิเตอร |
เจ้าของรถแท็กซี่มิเตอร์มีหน้าที่ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง สำหรับรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี |
สำหรับรถที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน 12 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพปีละ 3 ครั้ง |
รอบตรวจสภาพครั้งแรก ได้แก่ วันครบรอบชำระภาษีประจำปี |
ส่วนรอบต่อๆ ไป ดูได้จากสติ๊กเกอร์ที่ติดหน้ารถ |
เจ้าของรถสามารถดำเนินการตรวจล่วงหน้าก่อนวันที่ดังกล่าวได้ไม่เกิน 1 เดือน |
การเปลี่ยนมิเตอร์ |
การเปลี่ยนมิเตอร์ ต้องติดต่อขอซื้อจากบริษัทผู้จำหน่วยที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง |
หลักฐานที่ใช้ |
|
การเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท็กซี่มิเตอร์ |
เครื่องยนต์ที่จะนำมาเปลี่ยนอาจเป็นเครื่องยนต์ใหม่ หรือเครื่องยนต์เก่า (ที่มีอายุการใช้งานไม่เกินกว่า 4 ปี นับแต่วันผลิต) |
เครื่องยนต์ต้องมีขนาดความจุกระบอกสูบตั้งแต่ 1,500 ซีซี ขึ้นไป |
หลักฐานที่ใช้ |
|
ต้องนำรถไปตรวจสอบด้วย |
การโอนรถ |
การโอนทะเบียนเปลี่ยนเจ้าของ |
ผู้โอนและผู้รับโอนต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันโอน หากแจ้งเกินกำหนดต้องเสียค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด |
ขั้นตอนการโอนรถ |
1. ยื่นแบบคำขอโอนและรับโอน พร้อมหลักฐาน |
2. นำรถไปตรวจสอบ |
3. ชำระค่าธรรมเนียม |
การดำเนินการเกี่ยวกับรถแท็กซี่มิเตอร์ ในเขตกรุงเทพมหานคร |
การขอความเห็นชอบและจดทะเบียนรถแท็กซี่ ในเขตกรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่ |
กรมการขนส่งทางบก 1032 พหลโยธิน จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 |
อยู่ตรงข้ามสวนจตุจักร อาคาร 2 ชั้น 1 |
ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร |
การขอความเห็นชอบและจดทะเบียนรถแท็กซี่ ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด |
จำนวนรถแท็กซี่ |
สถิติการจดทะเบียนรถแท็กซี่มิเตอร์ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2547 |
รถบุคคลธรรมดา 39,879 คัน |
รถนิติบุคคล 41,141 คัน |
ยอดรวม 81,020 คัน |
จำนวนรถยนต์รับจ้างที่ติดตั้งวิทยุสื่อสาร ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2547 |
จำนวนรถยนต์รับจ้างที่ติดตั้งวิทยุสื่อสาร (ยอดสะสมรวม) จำนวน 32,606 คัน |
หมายเหตุ: จำนวนรถ เป็นจำนวนรถรถแท็กซี่มิเดอร์ที่ติดตั้งวิทยุสื่อสาร ทั้งรถส่วนบุคคล และรถนิติบุคคล |
|
Tell a friend: | home |